ในทุกๆ วันที่เราต้องเดินทางไปตามสถานที่ต่างๆ ซึ่งคาดเดาไม่ได้เลยว่าจะมีเชื้อโรคสะสมอยู่มากน้อยแค่ไหน โดยเฉพาะเชื้อแบคทีเรียชนิดต่างๆ ซึ่งกระจายอยู่ทุกที่ หากเชื้อแบคทีเรียเหล่านี้สะสมบนผิวหนังอาจทำให้เกิดโรคผิวหนังบางชนิดได้ด้วย แพทย์ผิวหนังกล่าวว่าเพราะผิวหนังเป็นเสมือนเกราะป้องกันของร่างกาย ช่วยป้องกันเชื้อโรคต่างๆ ที่จะเข้ามาทำลายผิวและทำให้เกิดโรค หากผิวหนังเสียสมดุลก็อาจทำให้เชื้อโรคผ่านเข้าสู่ผิวหนังและก่อให้เกิดการติดเชื้อที่ผิวหนังได้ ครีมอาบน้ำ Smooth E Mild & Moisturizing Anti-bacterial Shower Mousse ช่วยฆ่าเชื้อแบคทีเรีย ทำความสะอาดผิวของสาวๆ ได้อย่างล้ำลึกและอ่อนโยนต่อผิว
แบคทีเรียจำนวนมากใช้ผิวหนังของมนุษย์เป็นที่อยู่อาศัยเสมือนร่างกายมนุษย์คือโลกของมัน ส่วนต่างๆ ของร่างกายที่แบคทีเรียชอบสิงสถิตคือบริเวณที่มีความชื้น ได้แก่ รูจมูก หู ซอกขา ซอกแขน รักแร้ ง่ามมือ ง่ามเท้า ทั้งนี้ แบคทีเรียที่อาศัยอยู่บนผิวหนังแต่ละส่วนของร่างกายล้วนเป็นแบคทีเรียต่างชนิดกัน แพทย์ผิวหนังยังอธิบายเพิ่มเติมด้วยว่าแบคทีเรียบางชนิดเป็นตัวการที่ส่งผลเสียหลายอย่างต่อผิว เช่น
- ก่อให้เกิดสิว โดยพบได้ตามผิวหนัง ผม ขน ช่องปาก บางชนิดทำให้เป็นฝี ผิวหนังพุพอง รูขุมขนอักเสบ แผลอักเสบ สามารถรักษาได้ด้วยการใช้ยาทาเฉพาะที่ที่ใช้ในการรักษาสิว ซึ่งจะออกฤทธิ์ต้านเชื้อแบคทีเรียที่เป็นสาเหตุหนึ่งของการเกิดสิว
- เกิดกลิ่นตัว กลิ่นตัวเกิดขึ้นจากเชื้อแบคทีเรียชนิดหนึ่งซึ่งฝังตัวอยู่ที่ศีรษะ ท้ายทอย รักแร้ ขาหนีบ ข้อพับต่างๆ แล้วไปทำปฏิกิริยากับต่อมเหงื่อจนทำให้เกิดเชื้อราและกรดไขมัน เป็นเหตุให้เกิดความอับชื้นและเกิดกลิ่นตามมา วิธีการแก้ปัญหาในเบื้องต้นคือใช้สบู่เหลวที่มีฤทธิ์ต้านเชื้อแบคทีเรีย โดยเฉพาะที่มีส่วนผสมของ Chloroxylenol ซึ่งแพทย์ผู้เชี่ยวชาญแนะนำว่าเป็นสารฆ่าเชื้อที่มีความคงตัวสูง เหมาะที่จะใช้ร่วมกับผลิตภัณฑ์ทำความสะอาด หรือใช้ผลิตภัณฑ์ระงับกลิ่นกายที่ช่วยลดเหงื่อในบริเวณที่อับชื้นโดยเฉพาะบริเวณรักแร้
- เกิดผื่นภูมิแพ้ผิวหนัง เป็นภาวะผิวหนังอักเสบที่มีปัจจัยการเกิดหลายชนิด รวมถึงแบคทีเรียบนผิวหนัง เช่น สแตฟิโลคอกคัส และสเตรปโตคอกคัส ซึ่งอาจทำให้เกิดแผลพุพอง ตามมาด้วยการติดเชื้อร่วมกับมีไข้
- การทำความสะอาดเพื่อป้องกันแบคทีเรีย แบคทีเรียจะชอบอาศัยอยู่บริเวณผิวหนังที่มีความชื้นบนร่างกายมากกว่า แต่หากผิวหนังแห้งขาดความชุ่มชื้น ผิวหนังก็จะเปราะบางจนทำให้แบคทีเรียที่ไม่ดีสามารถแทรกซึมเข้าไปตามรูขุมขนได้เช่นกัน ดังนั้นควรรักษาความสะอาดและความชุ่มชื้นเพื่อผิวที่แข็งแรงด้วยการอาบน้ำให้สะอาดและถูกวิธี ดังนี้
- อาบน้ำด้วยอุณหภูมิเหมาะสม ควรอาบน้ำอุ่นจัดเพื่อให้รูขุมขนเปิดแล้วขับน้ำมันที่อาจก่อให้เกิดสิว ชะล้างสิ่งสกปรกและแบคทีเรียที่สามารถเจริญเติบโตในรูขุมขนให้หลุดลอกออกมา แต่แพทย์ผิวหนังชี้ว่าข้อควรระวังก็คือไม่ควรอาบน้ำที่มีอุณหภูมิสูงจนร้อนจนเกินไป โดยเฉพาะถ้าเป็นคนผิวแห้งอยู่แล้ว เพราะผิวอาจมีปัญหาระยะยาว ซึ่งแพทย์ผิวหนังแนะนำว่าหากใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของ Vitamin E ที่ให้ความชุ่มชื้นและความยืดหยุ่นกับผิว ผสานด้วย Sodium Hyaluronate ซึ่งมีคุณสมบัติเติมน้ำเข้าสู่ผิวโดยตรง อีกทั้งมีประสิทธิภาพในการกักเก็บน้ำไว้ได้มากถึง 1,000 เท่า จะช่วยให้ผิวชุ่มชื่น อิ่มน้ำ ซึ่งมีอยู่ใน สมูท อี มายด์ & มอยส์เจอร์ไรซิ่ง แอนตี้แบคทีเรีย ชาวเวอร์ มูส ทั้งนี้เมื่ออาบน้ำอุ่นจัดและทำความสะอาดผิวในขั้นตอนอื่นๆ เสร็จแล้ว ให้เปิดน้ำเย็นมาก ราดตัวสัก 1 – 2 นาที เพื่อให้ผิวและรูขุมขนกระชับ
- ผลัดผิวที่ตายแล้ว เซลล์ผิวที่ตายแล้วเมื่อรวมกับแบคทีเรียที่ตกค้างตามผิวหนังจะทำให้เกิดกลิ่นกายไม่พึงประสงค์ ขอให้ลองผลัดผิวด้วยสครับหรือใช้ใยบวบกับผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดร่างกายขัดตัว เพื่อขจัดเซลล์ผิวที่ตายแล้วออกจากร่างกาย ช่วยให้สิ่งสกปรกออกมาจากผิวได้อย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้นและทำให้ผิวกระจ่างใสมากขึ้นด้วย ทั้งนี้หากใช้ใยบวบแบคทีเรียอาจตกค้างตามเส้นใยได้ จึงต้องล้างให้สะอาดหลังใช้งานและเปลี่ยนใหม่อยู่เสมอ ดังนั้นหากใช้ผลิตภัณฑ์ที่แพทย์ผิวหนังแนะนำว่ามีส่วนผสมของ กรดซิตริก ซึ่งเป็นกรดอินทรีย์ที่พบตามธรรมชาติในอาหารหลายชนิด เช่น พืชตระกูลส้ม ก็จะช่วยผลัดเซลล์ผิวได้อย่างอ่อนโยน ช่วยปรับสมดุลพีเอชให้ผิวหนังได้โดยไม่ต้องกังวลกับแบคทีเรียที่อาจตกค้างในใยบวบ
- เลือกผลิตภัณฑ์อาบน้ำที่มีประสิทธิภาพ เนื่องจากแบคทีเรียสามารถแทรกซึมผ่านผิวหนังที่แห้งได้ง่าย จึงต้องใช้สบู่เหลวที่สามารถขจัดเชื้อแบคทีเรีย พร้อมทั้งให้ความชุ่มชื้น อ่อนโยนต่อผิวหนังด้วย-สมูท อี มายด์ & มอยส์เจอร์ไรซิ่ง แอนตี้แบคทีเรีย ชาวเวอร์ มูส ระดับพรีเมียม ที่มีคุณสมบัติแตกต่างจากครีมอาบน้ำทั่วไป เพราะเป็นเนื้อมูสสูตรอ่อนโยน สามารถใช้โกนหนวดและขนได้ ปราศจากสารลดแรงตึงผิวประจุลบ เช่น SLS ซึ่งนิยมใส่ในผลิตภัณฑ์ทำความสะอาด เช่น ผลิตภัณฑ์ล้างหน้า อาบน้ำ หรือยาสระผม ช่วยชำระล้างได้ดี แต่ทำให้ผิวแห้งมาก และสำหรับคนที่มีผิวแพ้ง่ายอาจเกิดการระคายเคืองได้มาก
นอกจากนั้น ยังมีส่วนผสมของ Sodium Cocoyl Glycinate ซึ่งเป็นสารชำระล้างที่อ่อนโยน และยังมีคุณสมบัติทำให้ผิวอ่อนนุ่ม ฟองครีมหนานุ่มที่ได้มาจาก Cocamido propyl Betain ซึ่งเป็นสารชำระล้างที่สกัดจากมะพร้าว ทำให้เกิดฟองครีมหนานุ่ม น่าสัมผัส Citric Acid (กรดซิตริก) เป็นกรดอินทรีย์ (Organic Acid) ที่พบตามธรรมชาติในอาหารหลายชนิด เช่น พืชตระกูลส้ม (Citrus) ช่วยในการผลัดเซลล์ผิวอย่างอ่อนโยน ช่วยปรับสมดุลพีเอชให้ผิวหนัง ผสานกับ Vitamin E ที่ให้ความชุ่มชื้นและความยืดหยุ่นกับผิว มีคุณสมบัติเป็นสาร Anti-oxidants ป้องกันการถูกทำร้ายจากอนุมูลอิสระและสภาวะแวดล้อมที่เป็นพิษ Sodium Hyaluronate เติมน้ำเข้าสู่ผิวโดยตรง และยังมีคุณสมบัติเด่นในด้านการกักเก็บน้ำไว้ได้มากถึง 1,000 เท่า จึงช่วยให้ผิวชุ่มชื่น อิ่มน้ำได้ตลอดวัน Chloroxylenol เป็นสารฆ่าเชื้อที่มีความคงตัวสูง เหมาะที่จะใช้ร่วมกับผลิตภัณฑ์หลากหลายรูปแบบ ด้วยสถานการณ์ปัจจุบันที่ต้องรักษาความสะอาดอย่างทั่วถึงทุกส่วนของร่างกาย คุณสมบัติที่มีฤทธิ์ฆ่าเชื้อแบคทีเรียได้ถึง 99.99% ได้รับการรับรองและผ่านการทดสอบโดยผู้เชี่ยวชาญทางด้านผิวหนัง คุณจึงมั่นใจได้ว่าจะสามารถทำความสะอาด กำจัดเชื้อแบคทีเรียและเชื้อโรคต่างๆ ที่ตกค้างได้อย่างมีประสิทธิภาพ
เมื่อปราการด่านแรกที่ต้องเผชิญกับเชื้อแบคทีเรียคือผิวหนังของเรา ดังนั้น จึงควรดูแลสุขภาพผิวด้วยการทำความสะอาดอย่างถูกต้องเหมาะสม ด้วยผลิตภัณฑ์ที่ผ่านการทดสอบและได้รับการรับรองจากผู้เชี่ยวชาญด้านผิวหนังแล้วว่าอ่อนโยน และสามารถกำจัดเชื้อแบคทีเรียได้ถึง 99.99% อย่าง Smooth E Mild & Moisturizing Anti-bacterial Shower Mousse ผิวเนียนนุ่ม สะอาด ปลอดภัยมั่นใจได้